บำรุงผิว

วิตามิน ซี วิตามินตัวเด็ด ปังทั้งสุขภาพและผิวพรรณ เมื่อพูดถึง วิตามิน ซี แล้วละก็ คงไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอน แต่ถ้าใครยังไม่รู้ หรืออยากหาข้อมูลเพิ่มเติม ว่าเจ้า วิตามิน ซี เนี่ยดีกับร่างกายของเราขนาดไหน และมีวิธีไหนบ้างในการเพิ่ม วิตามิน ซี ให้เราดูเป๊ะปังทั้งภายในและภายนอก เชิญอ่านบทความนี้ได้เลยค่ะ รับรอง ได้สาระเน้นๆอย่างแน่นอน วิตามิน ซี จัดเป็นหนึ่งในสารที่มีประโยชน์ต่อทั้งสุขภาพและผิวพรรณของเรา คุณสมบัติหลักๆที่มีผลงานวิจัยออกมาคือ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เราไม่ป่วยหรือเป็นหวัดได้ง่ายๆ เพิ่มความต้านทานต่อโรคหัวใจ นอกจากนี้วิตามินซี ยังช่วยให้ผิวต่อสู้กับสารอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอย และความหมองคล้ำ ช่วยเพิ่มระดับกลูต้าไธโอน และวิตามินอีในร่างกาย ซึ่งสารทั้งสองชนิดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงส่งผลให้ผิวดูสุภาพดี ดูอ่อนกว่าวัย กระจ่างใส นั้นเอง เป็นไงบ้างคะสำหรับข้อมูลเจ้า วิตามิน ซี มีประโยชน์เยอะมากๆ อ่านแล้วอยากให้วิตามินซีมาดูแลสุขภาพเราเลยใช่ไหมล่ะ วิธีที่เราจะสามารถหาวิตามินซี มาดูแลสุขภาพ หรือบำรุงผิวให้ดูสุขภาพดีกระจ่างใส หลักๆมี 4 วิธี ดังนี้ค่ะ วิตามิน …

วิตามิน ซี วิตามินตัวเด็ด ปังทั้งสุขภาพและผิวพรรณ Read More »

รู้จักเทรนด์สกินแคร์ใหม่อย่างการโทนอัพผิว ที่ว่ากันว่านี่คือ K-Beauty มาแรง มุ่งจุดขายไปที่การสร้างผิวให้ดูเหมือนสุขภาพดีแบบเร่งด่วนที่ทั้งง่ายและเร็วผ่านสกินแคร์หลายรูปแบบ ทั้งเบสเมกอัพ ไพรเมอร์ อิมัลชัน ครีมบำรุง และครีมกันแดดรนด์ K-Beauty ใหม่มาแรงที่สาวไทยต้องรู้ เทรนด์สกินแคร์ส่วนใหญ่ที่สาวไทยตอบรับมักจะมีกระแสความนิยมมาจากตะวันตกหรือแดนกิมจิเป็นหลัก เช่น เทรนด์ผิวขาวใส เทรนด์ผิวดิวอี้หรือผิวโกลว์ เทรนด์ผิวใสดั่งกระจกหรือ Glass Skin ซึ่งเทรนด์เหล่านี้มาพร้อมกับนวัตกรรมด้านความงามของสกินแคร์ที่พัฒนาสูตรบำรุงผิวมาเป็นจุดขายสำคัญที่ชวนให้คล้อยตามจนกลายเป็นไอเท็มขายดีในช่วงเวลาหนึ่งๆ เช่นเดียวกับเทรนด์โทนอัพผิว ที่ว่ากันว่านี่คือ K-Beauty เทรนด์ใหม่มาแรงที่มุ่งจุดขายไปที่การสร้างผิวให้ดูสุขภาพดีแบบเร่งด่วนที่ทั้งง่ายและเร็ว และเราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับโทนอัพให้มากกว่าเดิม Tone Up คืออะไร ผลิตภัณฑ์โทนอัพ เริ่มต้นความฮิตมาจากประเทศเกาหลี คือผลิตภัณฑ์ที่สร้างมาเพื่อการเตรียมผิวให้แลดูสุขภาพดีแบบเร่งด่วน ซึ่งสามารถพบเจอได้ทั้งในโลชั่น ครีมบำรุง อายครีม ครีมกันแดด เบสเมกอัพ รวมถึงคุชชันบางยี่ห้อ ซึ่งหากโฟกัสไปที่โทนอัพครีมที่ใช้บำรุงผิวหน้านั้นจะมีคุณสมบัติอันโดดเด่นที่ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ กลมกลืน (ไม่ว่าคุณจะมีผิวโทนสีใดก็ตาม) และอาจพบผลิตภัณฑ์โทนอัพได้ในไลน์ของกลุ่มไวท์เทนนิ่งและกลุ่มครีมบำรุงเพื่อผิวกระจ่างใสด้วยเช่นกัน แต่ในส่วนของ บริษัท เอส.พี.วาย. คอสเมติก ได้มีการวิจัยและพัฒนาสูตรกลุ่มผลิตภัณฑ์ โทนอัพ ที่มีประสิทธิภาพไม่แพ้ต้นตำหรับจากประเทศเกาหลี แถมปรับปรุงสูตรให้เข้ากับผิวคนไทยอีกด้วย และที่สำคัญมีครบทุกผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น โลชั่น ครีมบำรุง อายครีม ครีมกันแดด …

Tone Up คืออะไร เทรนด์ K-Beauty ใหม่มาแรงที่สาวไทยต้องรู้ Read More »

หลายท่านคงแปลกใจถึงหัวข้อว่าเอ๊ะ! ทำไมทุเรียนถึงทำให้ผิวสวยได้ ไม่ใช่ว่ากินทุเรียนแล้วทำให้อ้วนหรอ? ในความเป็นจริงแล้ว หากเรากินทุเรียนในปริมาณที่พอดีและพอเหมาะต่อร่างกาย ทุเรียนก็ไม่ทำให้อ้วน แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายเลยทีเดียว โดยเริ่มจากเนื้อของมันที่มีฤทธิ์ขับพยาธิ ส่วนเปลือกและหนาม หากนำมาสับแช่ในน้ำปูนใส สามารถนำมาล้างแผลพุพองได้ นอกจากนี้หากนำมาเผา ก็ยังช่วยไล่ยุง ไล่แมลงได้อีกด้วย และสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สาวๆ ต้องร้องว้าวเลยนั่นก็คือประโยชน์ในการทำให้ผิวสวยนั่นเอง มาดูกันดีกว่าว่ากินทุเรียนแล้วจะช่วยให้ผิวสวยได้อย่างไร ? รู้หรือไม่..! กินทุเรียนแล้วผิวสวย 1. ลดเลือนริ้วรอย แม้ว่าทุเรียนกลิ่นจะแรงไปสักนิด แต่มันมีฤทธิ์ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้นะ อยากหน้าเด็กต้องกินเลย เพราะว่าวิตามิน และสาร flavonoid ในทุเรียน สามารถยกกระชับผิวขึ้นได้ โดยข้อมูลบอกว่า สามารถทำให้ผิวเต่งตึงขึ้นได้ 55% และยังลดสาร Kerstin ที่ทำให้ผิวรอบดวงตาเกิดริ้วรอยได้อีกถึง 33% แต่ก็ต้องระวังว่าอย่ากินเยอะเกินไป 2. ลดรอยคล้ำใต้ดวงตา วิตามินต่างๆ ที่อยู่ในทุเรียนยังช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาได้ดีอีกด้วย วิธีที่หลายคนแนะนำคือ ให้เอาทุเรียนมาพอกรอบๆ ดวงตาเลย แต่ก็อย่าพอกเยอะไปนะคะ อย่างที่ทุกคนรู้ กันว่า กลิ่นมันค่อนข้างแรง แต่ถ้าไม่ไหวแค่กินอย่างเดียว ก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้ค่ะ 3. ผลัดเซลล์ผิวเก่า เซลล์ผิวเก่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผิวเราหมองคล้ำ ไม่เปล่งปลั่ง …

รู้หรือไม่..! กินทุเรียนแล้วผิวสวย Read More »

มหัศจรรย์ “รังไหม” ความสวยที่ปลอดภัยจากธรรมชาติ         คุณสาวๆทราบกันหรือไม่ว่า “รังไหม” มีโปรตีนจากธรรมชาติ และกรดอะมิโน ที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณมากถึง 18 ชนิด โดยเฉพาะ “เซริซิน (Sericin)” ซึ่งโดดเด่นในเรื่องช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์ ความชุ่มชื่นแก่ผิวพรรณ และยังดีต่อเส้นผม ในญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศแรกที่ค้นพบความลับจากรังไหมนี้ ก็ยังคงใช้ส่วนผสมนี้ในการผลิตสกินแคร์ ครีมแต่งหน้า และครีมทำความสะอาด อยู่จนถึงปัจจุบัน สำหรับในประเทศไทย เริ่มจาก กรมหม่อนไหมเมื่อยังเป็นสถาบันวิจัยหม่อนไหม ทำวิจัยร่วมกับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยรังสิต พบว่าผงไหมมีกรดอะมิโนมากถึง 16-18 ชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยรักษาแผลให้หายเร็วขึ้น สามารถกำจัดเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนัง ทั้งยังช่วยรักษาปริมาณน้ำในผิวหนัง กำจัดสิ่งสกปรกในเซลล์และยืดอายุเซลล์ได้อีกด้วย จึงคิดผลิตสบู่ไหม พร้อมทูลเกล้าฯถวายสิทธิบัตรแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อปี 2547 ก่อนที่พระองค์จะพระราชทานสิทธิบัตรให้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพนำไปผลิตเชิงพาณิชย์ต่อไป รังไหม ประกอบด้วยกรดอะมิโน 18 ชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารช่วยขจัดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังบางชนิด กรดอะมิโนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในร่างกายมนุษย์ กรดอะมีโน ชนิดที่สำคัญคือเซอริซิน (Sericin) …

มหัศจรรย์ “รังไหม” ความสวยที่ปลอดภัยจากธรรมชาติ Read More »

5เคล็บลับความสวยดุจพระนางคลีโอพัตรา พระนางคลีโอพัตรา หญิงสาวที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อนๆเคยสงสัยกันไหม ว่าทำไมพระนางคลีโอพัตราจึงได้ชื่อว่าเป็น หญิงงามที่สุดในประวัติศาสตร์ เธอมีเคล็ดลับความงามอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบให้เพื่อนๆค่ะ การตายของคลีโอพัตรา เป็นการสิ้นสุดยุคประวัติศาสตร์อียิปต์ ซึ่งเป็นการเปิดทางให้กับจักรวรรดิโรมันรุ่งเรืองขึ้นมา ถึงแม้การจากไปของพระนางช่างเป็นเรื่องหน้าเศร้า แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะลืมเลือน ด้วยความที่พระนางได้แต่งงานกับนักรบผู้ยิ่งใหญ่ถึงสองคน ทำให้เป็นที่กล่าวขานว่าพระนางงดงามขนาดไหน ถึงได้มัดใจชายหนุ่มทั้งสองได้อย่างอยู่หมัด! และตามที่กล่าวไปแล้วตั้งแต่ต้น ว่าเรานำ 5เคล็บลับความงามดุจพระนางคลีโอพัตรา มาแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้กันนน   เคล็ดลับที่ 1 อาบน้ำนม คือส่วนสำคัญที่สุด ในการมีผิวสวยของพระนางคลีโอพัตราค่ะ พระนางคลีโอพัตรา จะทรงใช้น้ำนมสด ผสมกับน้ำมันอัลมอนด์ในการอาบน้ำ จะทรงแช่อยู่ในน้ำนม เป็นการผ่อนคลาย หลังจากทรงงานแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวได้ หากเพื่อนๆสนใจ ก็สามารถใช้น้ำนมสด  3 ถ้วย ผสมลงในอ่างที่มีน้ำอุ่น แล้วเติมน้ำมันอัลมอนด์ลงไป 5 ช้อนโต๊ะ แล้วถ้าไม่มีน้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันมะกอกก็ใช้แทนกันได้ การใช้สูตรนี้ จะช่วยให้มีผิวที่อ่อนนุ่ม และกระจ่างใสแบบพระนางคลีโอพัตตราค่ะ   เคล็ดลับที่ 2 โฟมล้างหน้าองุ่นเขียว สูตรนี้สำหรับสาวผิวเข้มนิดนึง เนื่องพระนางคลีโอพัตราเป็นคนอียิปต์ ซึ่งจะมีสีผิวเข้ม สูตรนี้ พระนางใช้สำหรับทำความสะอาดผิวหน้า คือ …

5เคล็บลับความงามดุจพระนางคลีโอพัตรา Read More »

คอลลาเจนคืออะไร ดียังไง ถ้าร่างกายขาดคอลลาเจนจะเป็นอย่างไร คอลลาเจน Collagen คือ เส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่คล้ายกาวเกาะยึดส่วนต่างๆ ในร่างกาย เป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง ขน และเส้นผม ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น คงความกระชับ เต่งตึง เรียบเนียน พบมากบริเวณกระดูกข้อต่อ กระดูกอ่อน รวมถึงเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกายของคนและสัตว์ เมื่อเรารับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ปลา หรือผลิตภัณฑ์จากนมเข้าไป โปรตีนนั้นจะถูกย่อยสลายจนแตกตัว และก่อตัวขึ้นใหม่เป็นโปรตีนที่ช่วยในกระบวนการรักษาแผล ซ่อมแซมกล้ามเนื้อ เสริมสร้างความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง ซึ่งนั่น คือคอลลาเจน คอลลาเจนคืออะไร ดียังไง ถ้าร่างกายขาดคอลลาเจนจะเป็นอย่างไร ประโยชน์ของคอลลาเจน คอลลาเจนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงป้องกันและเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในร่างกายเพื่อเป็นการเกิดริ้วรอยลึกโดยจัดการกับสารอนุมูลอิสระที่ถูกเร่งมาจากปัจจัยต่างๆ มากมายโดยเฉพาะรังสียูวี ยิ่งป็นตัวการสำคัญ ที่ก่อให้เกิดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพอีกด้วยทำให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่น กระชับใสและมีความเรียบเนียน ต่อต้านการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้นการดูแลผิวเพื่อการชะลอริ้วรอยโดยรับประทาน คอลลาเจน ยังเป็นอีกวิธีการหนึ่งในการเติมคอลลาเจนให้กับชั้นผิวคอลลาเจนช่วยเพิ่มความแข็งแรงและยืดหยุ่นของคอลลาเจนที่ชั้นผิวหนัง ป้องกันฝ้า จุดด่างดำ และ กระ นอกจากนี้ยังช่วย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตโดยเฉพาะหลอดเลือดเล็ก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นคอลลาเจนสามารถลดการเกิดรอยดำ รวมทั้งกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ที่ชั้นผิวหนัง ป้องกันการสูญเสียน้ำที่ชั้นผิว …

คอลลาเจนคืออะไร ดียังไง ถ้าร่างกายขาดคอลลาเจนจะเป็นอย่างไร Read More »

ความผูกพันอย่างลึกซึ้งที่ชาวเมดิเตอร์เรเนียนมีต่อต้นมะกอกนั้นมีหลักฐานปรากฏให้เห็นอยู่มากมาย เช่น ในอียิปต์ พบมัมมี่อายุราว 3,200 ปี สวมมงกุฎใบไม้ที่ทำด้วยใบมะกอก และมีความเชื่อว่า เทพเจ้าประทานต้นมะกอกมาให้ ดังนั้นฟาโรห์จึงใช้น้ำมันมะกอกเป็นเครื่องหอมประจำพระองค์ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของ อิสราเอลขุดพบโม่ที่ใช้สำหรับบดผลมะกอก และในกรีซก็มีตำนานของเทวีอะเธน่า ที่ทรงประทานต้นมะกอกให้เป็นของขวัญแก่ชาวกรีก จึงพบว่าชาวกรีกมักปลูกต้นมะกอกไว้รายรอบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะเชื่อว่าต้นมะกอกให้ทั้งความหวัง อิสรภาพ และความปรานีแก่ผู้พบเห็น เราสามารถนำต้นมะกอกแทบทุกส่วนมาใช้ประโยชน์ เช่น เนื้อไม้ใช้ทำเครื่องเรือน ผลใช้กินหรือคั้นเอาน้ำมันใช้ทำอาหาร ใช้นวดตัว มะกอกได้รับการขนานนามว่า “ผลไม้ทองคำ” หรือ “สมบัติแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน” เพราะว่าน้ำมันมะกอกช่วยขจัดสิ่งสกปรกและสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้ผิวกระจ่างใสชุ่มชื่น นอกจากนี้ น้ำมันมะกอกช่วยปกป้องหนังกำพร้า ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ซึ่งเกิดจากวิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันมะกอกนั่นเอง น้ำมันมะกอกช่วยบำรุงผิว น้ำมันมะกอกมีคุณสมบัติพิเศษกว่าน้ำมันอื่นๆคือ เมื่อทาน้ำมันมะกอกแล้วจะซึมสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและไม่ทิ้งความมันบนผิวหน้ามากนัก แตกต่างกับน้ำมันอื่นๆที่ทาแล้วจะไม่ซึมสู่ผิวแถมยังทิ้งความมันไว้อีกต่างหาก น้ำมันมะกอกสามารถใช้แต้มสิวฆ่าเชื้อโรคได้ หรือจะใช้ร่วมกับครีมบำรุงผิวต่างๆได้ด้วยเช่นกัน เพียงแค่เช็ดหน้าทำความสะอาดด้วยโทนเนอร์ ทาน้ำมันมะกอกเล็กน้อยจากนั้นทาครีมบำรุงผิวลงไป น้ำมันมะกอกจะช่วยให้ครีมบำรุงผิวซึมลึกสู่ผิวและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของครีมบำรุงผิวให้ดียิ่งขึ้นเข้าไปอีก น้ำมันมะกอกสามารถใช้ทาก่อนนอนได้โดยไม่ต้องทาครีมบำรุงเพิ่ม โดยน้ำมันมะกอกช่วยขจัดสิ่งสกปรกและสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้ผิวกระจ่างใสชุ่มชื่นและชะลอริ้วรอยแห่งวัย น้ำมันมะกอกเพียงอย่างเดียวมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับครีมบำรุงพื้นฐานกว่า 10ชนิด การกินน้ำมันมะกอกทุกวัน เพียงแค่วันละ 1ช้อนโต๊ะทุกวัน จะช่วยให้ผิวสดชื่นดูเปร่งปรั่ง สุขภาพผิวและร่างกายของคุณจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประโยชน์ของน้ำมันมะกอกกับเส้นผม น้ำมันมะกอกช่วยบำรุงหนังศรีษะและช่วยให้เส้นผมแข็งแรง กำจัดน้ำมันส่วนเกินบนที่อุดตันต่อมรากผม …

เคล็บลับความงาม จากน้ำมันมะกอก Read More »

หลายคนคงคุ้นเคยกับคำว่า Serum (เซรั่ม) กันเป็นอย่างดีอยู่แล้วใช่ไหมคะ? แต่เมื่อต้นปี 2020 ที่ผ่านมาวงการสกินแคร์ เริ่มมีการใช้คำว่า Ampoules (แอมเพิล) โดยเฉพาะทางฝั่งเกาหลี ซึ่งตอนนี้เริ่มมีหลายแบรนด์ใช้คำนี้เยอะขึ้นในสกินแคร์ใหม่ บางคนอาจงงว่า Ampoule คืออะไรกันนะ เป็นสกินแคร์แบบไหน ใช้เพื่ออะไร ขั้นตอนไหน และดีกว่าสกินแคร์ที่เรามีอยู่ยังไง? ทำไมต้องใช้ ทุกคำถามที่ทุกคนสงสัย ในบทความนี้จะทำให้ทุกคนรู้จัก Ampoule มากขึ้นแน่นอนค่า วันนี้ทาง บริษัท เอส.พี.วาย. คอสเมติก หาคำตอบมาให้แล้วค่ะว่า Ampoules (แอมเพิล) คืออะไร? จะแตกต่างและดีกว่า Serum (เซรั่ม) อย่างไร? Ampoules (แอมเพิล) คืออะไร? แอมเพิล เป็นสกินแคร์ชนิดใหม่ที่จะมีส่วนคล้ายกับเซรั่มแต่จะแตกต่างตรงที่เนื้อของแอมเพิลจะเข้มข้นกว่าเซรั่ม 2-3 เท่า แม้ว่า Texture ของแอมเพิลจะเข้มข้นกว่าแต่ก็มีเนื้อที่บางเบาและซึมซับเข้าผิวหน้าได้อย่างรวดเร็วไม่ต่างจาก เซรั่ม แอมเพิลเป็นสกินแคร์ที่เหมาะแก่การบำรุงผิวในวันที่เร่งด่วน ให้ผลลัพธ์ได้ในระยะเวลาที่รวดเร็วเปรียบเสมือนการ Booster ผิวของเราในเวลาที่จำกัดให้ผิวกลับมาสดใสอีกครั้ง Ampoules ดีกว่า เซรั่มอย่างไร? เหมาะกับใคร? …

“Ampoules” เข้มข้นกว่า “Serum” 3เท่า สกินแคร์มาแรงแห่งปี 2020 Read More »

ครีมบำรุงผิวที่มีในบ้านเราปัจจุบัน สาวๆอาจจะคุ้นกับชื่อ เมือกหอยทาก ครีมหอยทาก จริงๆแล้วครีมหอยทากเข้าประเทศไทยมาได้ซักระยะหนึ่ง แล้วก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดี แต่ก็มีสาวๆหลายคน เริ่มเกิดความสงสัยว่า เจ้าเมือกหอยทากมันดียังไง เมือกหอยทากบำรุงผิวได้จริงหรือ?  วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ เมือกหอยทากคืออะไร (Snail Mucus) เมือกหอยทาก คือสารคัดหลั่งของหอยทากที่ผลิตมาเพื่อประโยชน์ สำหรับการปกป้องผิวของหอยทาก ทั้งในขณะเคลื่อนที่และพื้นผิว ที่สัมผัสกับอากาศตลอดเวลาซึ่งเมือกหอยทากนี้จะปกป้องส่วนที่สัมผัส พื้นดินในเวลาเคลื่อนที่ ลดแรงเสียดทานเหมือนเป็นการปูพรมขณะเดิน ที่สำคัญเมือกที่ผลิตออกมายังช่วยสมานแผลบนเนื้อเยื่อของมันเองที่เกิด การขูดขีดเสียดสีกับพื้นผิวขรุขระ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเปลือกของหอยทาก ได้รับความเสียหายแตกออก หอยจะใช้น้ำเมือกในส่วนของแมนเทิล (Mantle) ที่อยู่ในชั้นถัดจากฝากระดองหอย ซึ่งถือเป็นเมือกหอยทาก ส่วนที่ดีที่สุดมาช่วยซ่อมแซมและสร้างเปลือกใหม่ให้ตัวเอง แสดงให้เห็น ถึงพลังแห่งการฟื้นฟูของเมือกหอยทากอย่างน่าอัศจรรย์ แล้วเมือกหอยทากบำรุงผิวได้จริงหรือ? เมือกหอยทาก มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Helix Aspersa Miller Glycoconjugates. ซึ่งจากการวิจัยทำให้พบว่า ผิวของหอยทากและมนุษย์มีองค์ประกอบที่คล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก แม้แต่ปริมาณของคอลลาเจนและอิลาสตินเองก็มีความคล้ายคลึงกัน เมือกของหอยทาก ที่นำมาสกัดลงเป็นส่วนประกอบในครีมหอยทาก ก็คือเมือกคราบขาวๆ ที่เรามักจะเห็นอยู่บนเส้นทางที่หอยทากทำการเดิน ซึ่งเจ้าเมือกนี้จะช่วยปกป้องส่วนที่สัมผัสพื้นในขณะที่หอยทากทำการเดินนั่นเอง เมื่อหอยทากเจอสภาวะที่เสี่ยงต่ออันตราย จะทำการผลิตเมือกออกมา ซึ่งในเมือกของมันจะเต็มไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ สารต่อต้านการอักเสบ สารปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกัน เป็ปไทด์ เอ็มไซต์และสารติดต่อกับเซลล์ผิว ซึ่งคุณสมบัติหลักๆ …

เมือกหอยทากบำรุงผิวได้จริงหรือ? Read More »

ยังคงเป็นประโยคยอดฮิตตลอดการที่ใครๆ ก็พูดกันว่าเกิดเป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย แต่จะดีกว่าไหม หากคุณสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ให้สวย กระจ่างใส ด้วยธรรมชาติด้วย ว่านหางจระเข้ ซึ่งนอกจากจะถูกนำไปผสมในผลิตภัณฑ์และครีมบำรุงผิวต่างๆ ที่วางขายตามท้องตลาด เพื่อประทินผิวคุณให้สวยได้ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้ว ยังมีสรรพคุณมากมายที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนอีกด้วย และนี่ก็คือ ว่านหางจระเข้ กับ 5 สูตรดูแลผิวสวย ที่เรานำมาฝากกันนั่นเอง 1.ว่านหางจระเข้ช่วยรักษาสิว หากจะกล่าวถึงครีมบำรุงผิวและสกินแคร์มากมายหลากหลายยี่ห้อทุกวันนี้ จะต้องมีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่ใช้ ว่านหางจระเข้ เป็นส่วนผสมหลักๆ ในครีมบำรุงผิวตัวนั้นๆ เพราะด้วยคุณสมบัติที่ช่วยลดสิว และยังช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนังได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากคุณอยากรักษาสิวและไม่อยากจะเสียเงินมากมายไปกับการซื้อครีมบำรุงต่าง ๆ ลองหันไปใช้วุ้นใสๆ ในว่านหางจระเข้ทาบาง ๆ ที่สิว สักระยะหนึ่งปัญหาสิว ผิวอักเสบของคุณจะค่อยๆ บรรเทาลงอย่างเห็นผลชัดเจน 2.แชมพูผสมว่านหางจระเข้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ถ้าคุณเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีปัญหาผมแห้งกรัง ราวกับเป็นไม้กวาดดอกหญ้า ให้คุณลองนำวุ้นสดที่อยู่ภายใน ว่านหางจระเข้ ไปผสมกับแชมพูที่คุณใช้อยู่ประจำ แล้วคุณจะพบว่าว่านหางจระเข้ สามารถช่วยบำรุงผมให้ชุ่มชื้นและนุ่มสลวยได้ แถมยังลดปัญหาศีรษะมีรังแค รวมถึงอาการคันต่างๆ ของศีรษะก็หายเป็นปลิดทิ้ง เพียงเท่านี้ผมของคุณก็สวยสุขภาพดีได้ ราวกับไปทำทรีทเม้นท์แพงๆ ตามร้านทำผมอีกเลย 3.ขัดผิวคุณให้สวย เนียนใสด้วยว่านหางจระเข้ ลองนำวุ้นใสในว่านหางจระเข้สักประมาณครึ่งถ้วยไปผสมกับน้ำตาลทรายแดงประมาณ ¼ ถ้วย แล้วนำไปขัดผิวเบาๆ เป็นประจำทุกวัน …

ว่านหางจระเข้ กับ 5 สูตรดูแลผิวสวย Read More »