ความผูกพันอย่างลึกซึ้งที่ชาวเมดิเตอร์เรเนียนมีต่อต้นมะกอกนั้นมีหลักฐานปรากฏให้เห็นอยู่มากมาย เช่น ในอียิปต์ พบมัมมี่อายุราว 3,200 ปี สวมมงกุฎใบไม้ที่ทำด้วยใบมะกอก และมีความเชื่อว่า เทพเจ้าประทานต้นมะกอกมาให้ ดังนั้นฟาโรห์จึงใช้น้ำมันมะกอกเป็นเครื่องหอมประจำพระองค์ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของ อิสราเอลขุดพบโม่ที่ใช้สำหรับบดผลมะกอก และในกรีซก็มีตำนานของเทวีอะเธน่า ที่ทรงประทานต้นมะกอกให้เป็นของขวัญแก่ชาวกรีก จึงพบว่าชาวกรีกมักปลูกต้นมะกอกไว้รายรอบสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะเชื่อว่าต้นมะกอกให้ทั้งความหวัง อิสรภาพ และความปรานีแก่ผู้พบเห็น เราสามารถนำต้นมะกอกแทบทุกส่วนมาใช้ประโยชน์ เช่น เนื้อไม้ใช้ทำเครื่องเรือน ผลใช้กินหรือคั้นเอาน้ำมันใช้ทำอาหาร ใช้นวดตัว มะกอกได้รับการขนานนามว่า “ผลไม้ทองคำ” หรือ “สมบัติแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน” เพราะว่าน้ำมันมะกอกช่วยขจัดสิ่งสกปรกและสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้ผิวกระจ่างใสชุ่มชื่น นอกจากนี้ น้ำมันมะกอกช่วยปกป้องหนังกำพร้า ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ซึ่งเกิดจากวิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันมะกอกนั่นเอง น้ำมันมะกอกช่วยบำรุงผิว น้ำมันมะกอกมีคุณสมบัติพิเศษกว่าน้ำมันอื่นๆคือ เมื่อทาน้ำมันมะกอกแล้วจะซึมสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและไม่ทิ้งความมันบนผิวหน้ามากนัก แตกต่างกับน้ำมันอื่นๆที่ทาแล้วจะไม่ซึมสู่ผิวแถมยังทิ้งความมันไว้อีกต่างหาก น้ำมันมะกอกสามารถใช้แต้มสิวฆ่าเชื้อโรคได้ หรือจะใช้ร่วมกับครีมบำรุงผิวต่างๆได้ด้วยเช่นกัน เพียงแค่เช็ดหน้าทำความสะอาดด้วยโทนเนอร์ ทาน้ำมันมะกอกเล็กน้อยจากนั้นทาครีมบำรุงผิวลงไป น้ำมันมะกอกจะช่วยให้ครีมบำรุงผิวซึมลึกสู่ผิวและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของครีมบำรุงผิวให้ดียิ่งขึ้นเข้าไปอีก น้ำมันมะกอกสามารถใช้ทาก่อนนอนได้โดยไม่ต้องทาครีมบำรุงเพิ่ม โดยน้ำมันมะกอกช่วยขจัดสิ่งสกปรกและสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้ผิวกระจ่างใสชุ่มชื่นและชะลอริ้วรอยแห่งวัย น้ำมันมะกอกเพียงอย่างเดียวมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับครีมบำรุงพื้นฐานกว่า 10ชนิด การกินน้ำมันมะกอกทุกวัน เพียงแค่วันละ 1ช้อนโต๊ะทุกวัน จะช่วยให้ผิวสดชื่นดูเปร่งปรั่ง สุขภาพผิวและร่างกายของคุณจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประโยชน์ของน้ำมันมะกอกกับเส้นผม น้ำมันมะกอกช่วยบำรุงหนังศรีษะและช่วยให้เส้นผมแข็งแรง กำจัดน้ำมันส่วนเกินบนที่อุดตันต่อมรากผม …
